แจกสูตรอาหารไทยโบราณ ที่หาทานได้ยาก

แจกสูตรอาหารไทยโบราณ ที่หาทานได้ยาก อาหารไทยโบราณ ใช่ว่าใครก็ทำได้ จะต้องเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญอาหารไทยเท่านั้น แต่ในวันนี้ เราจะมาแจกสูตรอาหารไทยโบราณ เพื่อที่จะให้ใครก็สามารถทำไว้รับประทานเองได้ง่าย ๆ เพียงแค่ทำตามสูตรที่เราได้นำมาฝาก ทั้งอาหารคาวที่เป็นกับข้าว หรืออาหารทานเล่น ๆ มาดูกันเลยค่ะ ว่ามีเมนูอะไรกันบ้าง แล้วคุณจะรู้จักหรือไม่ ตามมาเลยค่ะ

1. แกงระแวงเนื้อ

แกงโบราณที่มีมานานมากแล้ว บ้างว่าแกงชนิดนี้เป็นอาหารไทยโบราณ หลายตำราอ้างอิงต้นกำเนิดแกงระแวงว่ามาจากอินโดฯ (ชวา) ดูแล้วการปรุงแทบไม่ต่างกัน บ้างก็ปรุงด้วยพริกแกงแดง (พริกแกงเผ็ด) ผสมกับพริกแกงเขียวหวาน จึงไม่สามารถคาดเดาได้ว่า สูตรต้นตำรับแท้จริงเขาใช้พริกแกงเขียวหวานล้วน หรือผสมพริกแกงเผ็ดเข้าไปด้วย

วัตถุดิบ

  • เนื้อวัว 500 กรัม
  • ตะไคร้ 3 ต้น 
  • หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง 
  • หางกะทิ 3 ถ้วยตวง 
  • เกลือ ½ ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ 
  • พริกชี้หนูเขียวและแดง

ส่วนผสมของพริกแกง

  • พริกแกงเขียวหวาน 200 กรัม
  • ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ขมิ้นสดหั่น 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ

STEP 1 : ตุ๋น

  • นำหางกะทิขึ้นตั้งไฟ แล้วใส่เกลือลงไป รอกะทิเดือด
  • นำเนื้อวัวที่หั่นแล้วลงไป ตามด้วยตะไคร้ ตุ๋นประมาณ 1 ชั่วโมงให้เนื้อนิ่ม

STEP 2 : โขลก

  • โขลกขมิ้นกับตะไคร้ให้ละเอียด ใส่พริกแกงเขียวหวานลงไป คลุกรวมกันให้ละเอียด
  • นำไปผัดกับน้ำมันจนมีกลิ่นหอม ใส่หัวกะทิลงไปเคี่ยวให้แตกมัน
  • นำเนื้อที่ตุ๋นไว้ ลงผัดกับกะทิ

STEP 3 : รวมร่าง

  • ใส่พริกชี้ฟ้า ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ
  • ชิมรส และ จัดเสิร์ฟ

2. จอแหร้ง

วัตถุดิบ

  • กุ้งสดปอกเปลือกผ่าหลัง 200 กรัม
  • กะทิ 500 มิลลิลิตร
  • ตะไคร้ซอย 50 กรัม
  • หอมแดงซอย 50 กรัม
  • พริกขี้หนู 30 กรัม
  • ขมิ้น 20 กรัม
  • ใบมะกรูดฉีก 15 กรัม
  • กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
  • นํ้ามะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  • นํ้าปลา 2 ช้อนชา
  • นํ้าตาลปี๊บ 2 ช้อนชา
  • พริกชี้ฟ้าสีแดงซอยสำหรับตกแต่ง
  • ใบมะกรูดซอยสำหรับตกแต่ง

วิธีทำ

STEP 1 : เคี่ยว

  • เทกะทิ 1ส่วน4 ใส่กระทะ แล้วยกขึ้นตั้งไฟ พอเริ่มเดือดใส่กะปิ ตะไคร้ หอมแดง และขมิ้น คนให้ทุกอย่างเข้ากัน พอเดือดอีกครั้งให้เบาไฟเคี่ยวจนส่วนผสมต่าง ๆ นุ่ม

STEP 2 : ปรุงรส

  • เติมกะทิส่วนที่เหลือลงไป ตามด้วยพริกขี้หนู รอให้เดือดอีกครั้งจึงใส่กุ้ง และปรุงรสด้วยนํ้ามะขามเปียก นํ้าปลา นํ้าตาลปี๊บ ใส่ใบมะกรูด และพริกชี้ฟ้าส่วนหนึ่งลงไป คนให้ทุกอย่างเข้ากัน

STEP 3 : จัดเสิร์ฟ

  • เมื่อกุ้งสุกให้ตักใส่ภาชนะ โรยด้วยพริกชี้ฟ้าและใบมะกรูดซอยตกแต่ง เพียงเท่านี้ จอแหร้ง หรือ แกงกะทิกุ้งสดตะไคร้ ของเราก็พร้อมให้ทุกคนได้ทานแล้วค่ะ

3. แกงคั่วหัวตาลกุ้งสด

วัตถุดิบ

  • หัวตาลอ่อน 500 กรัม 
  • เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
  • กะทิ 750 กรัม
  • กุ้งสดแกะเปลือก 300 กรัม
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
  • ใบมะกรูดหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ

วัตถุดิบน้ำพริกแกงเผ็ด

  • ตะไคร้ 100 กรัม
  • พริกแห้ง 100 กรัม
  • กระเทียม 60 กรัม
  • กระชาย 100 กรัม
  • ข่าอ่อน 30 กรัม 
  • ผิวมะกรูด 1 ช้อนโต๊ะ 
  • ปลาทูนึ่งแกะเอาแต่เนื้อ 100 กรัม
  • ปลาอินทรีย์เค็มทอด 100 กรัม
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

STEP 1 : ตำพริกแกง + ลวกหัวตาล

  • ตะไคร้ พริกแห้ง กระเทียม กระชาย ข่าอ่อน ผิวมะกรูด และเกลือมาตำให้ละเอียด จากนั้นใส่กะปิ และปลาทูนึ่งลงไปตำให้เข้ากัน ตักขึ้นเตรียมไว้
  • ต้มน้ำให้เดือดใส่เกลือ และหัวตาลอ่อนลงไปลวกในน้ำเดือดประมาณ 10 นาทีแล้วนำไปล้างน้ำสะอาด ทำแบบนี้ประมาณ 3 รอบ หรือจนกระทั่งหัวตาลอ่อนหมดรสขม ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ

STEP 2 : ปรุงรส

  • ต้มกะทิให้เดือดเล็กน้อย ใส่พริกแกงเผ็ดลงไปคนให้เข้ากัน ต้มจนกะทิแตกมันเล็กน้อย ถ้ากะทิข้นเกินไปให้เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย
  • เมื่อกะทิเดือดให้ใส่หัวตาลอ่อนลงไปแล้วคนให้เข้ากัน รอจนเดือดอีกครั้งค่อยปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ ตามด้วยกุ้งสด รอจนเดือดอีกครั้งปิดไฟ เตรียมจัดเสิร์ฟ

STEP 3 : จัดเสิร์ฟ

ตักแกงคั่วหัวตาลกุ้งสด ใส่ชาม ตกแต่งด้วยใบมะกรูดซอยนิดหน่อย และพริกชี้ฟ้าเล็กน้อย เพียงเท่านี้ แกงคั่วหัวตาลกุ้งสด ของเราก็พร้อมรับประทานแล้วค่ะ

และนี่คือสูตรอาหารไทยโบราณ ที่เราได้นำมาฝากกัน เพื่อที่จะทำให้คุณ ได้ลิ้มลองอาหารไทยโบราณ ที่หาทานได้ยากแล้ว ในปัจจุบันนี้ สามารถทำไว้ทานเอง หรือจะขาย เพื่อเป็นรายได้เสริมส่วนหนึ่ง และตีแผ่อาหารไทยโบราณ ให้คนรุ่นหลัง หรือคนที่ยังไม่เคยได้ลิ้มรส และรู้จักเมนูนี้ก็ได้เช่นกันค่ะ

เข้าสู่ยุคเทคโนโลยีอย่างเต็มขั้นแล้วสำหรับปี 2020 ที่เทคโนโลยีได้ก้าวหน้ากันอย่างมาก อาจเพราะด้วยการแข่งขันทางการตลาด ทำให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่มีอยู่อย่างไม่จำกัดและ 6 อุปกรณ์สุดไฮเทคที่ควรมี! ในยุคเทคโนโลยี

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : รวม 5 เมนูอาหารใต้รสเลิศ อร่อยจนต้องไปลอง!