ช่วงนี้ หลาย ๆ คนก็คงจะอยากออกเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดกับ คงไม่มีใครที่อยากเดินทางด้วยรถประจำทางอย่างแน่นอน เพราะว่าการขับรถของตัวเองไปนั้น ถือว่า มีความสะดวก สบาย อีกทั้ง ยังเป็นส่วนตัวอีกด้วย แต่การที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนั้น ก็จะต้องมีการเตรียมตัวที่ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นการขับรถ การเช็คสภาพรถยนต์ หลาย ๆ คนก็คงจะไม่มีความรู้ในเรื่องการเช็คสภาพใช่ไหมคะ ดังนั้น วันนี้เราก็จะมาแนะนำ 5 ขั้นตอน ตรวจสภาพรถยนต์ ง่าย ๆ ด้วยตนเอง รับรองเลยว่า คนที่ไม่ค่อยจะมีความรู้เรื่องรถเลย สามารถตรวจเช็ครถยนต์ของตัวเองก่อนออกเดินทางได้อย่างแน่นอน

     ถึงแม้ว่า คุณจะมีการนำรถยนต์คันโปรดของคุณนั้น เข้าไปตรวจสภาพประจำทุกปีอยู่แล้ว แต่การตรวจสภาพรถยนต์นั้น ก็ควรที่จะมีการเช็คทุกครั้งก่อนที่จะออกเดินทางไกล ๆ อีกด้วย เพื่อให้รถยนต์ของคุณหรือรถครอบครัวมีสมรรถภาพเป๊ะพร้อมขับขี่ปลอดภัยทุกเส้นทาง มาดูกันเลยค่ะว่า มีขั้นตอนการเช็คสภาพรถยนต์อะไรบ้าง จะมีขั้นตอนที่ยากแค่ไหน มาดไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

5 ขั้นตอน ตรวจสภาพรถยนต์ ง่าย ๆ  ด้วยตนเอง

ตรวจสภาพรถยนต์ 1

1. ตรวจสอบลมยาง

            ขั้นตอนแรก และถือว่า ทุก ๆ ครั้ง จะต้องดูก่อนขับขี่ก็คือการตรวจลมยางของรถนั่นเอง ซึ่งลมยางนั้นก็จะต้องมีความดันที่พอดี หากอ่อนเกินไปก็จะทำให้ยางรถยนต์นั้น สึกไวและอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมาได้ ยางที่แข็งเกินไปก็จะนั่งไม่สบาย รถกระเด้งกระดอน สำหรับวิธีการตรวจเช็คง่าย ๆ เลย ก็คือ การนำรถเข้าไปเติมลมยางนั่นเอง ซึ่งค่าแรงดันลมรถยนต์สำหรับรถเก๋งทั่วไป จะอยู่ที่ 30-32 PSI  ส่วนรถกระบะควรเติมลมยางมากกว่ารถเก๋งปกติ โดยหากไม่มีสิ่งของบรรทุกควรมีแรงดันอยู่ที่ 36-38 PSI และล้อหลังอยู่ที่ 40-42 PSI ซึ่งสามารถขับรถไปเติม หรือเช็คลมได้ง่าย ๆ ตามปั๊มน้ำมันเลยค่ะ

สอง

2. ตรวจสภาพรถยนต์ ตรวจสอบน้ำมันเรื่องยนต์

            น้ำมันเครื่องยนต์ถือว่าเป็นอีกส่วนที่สำคัญของรถยนต์ ถือว่า เป็นตัวหล่อลื่นให้กับระบบส่งกำลังของรถยนต์เลยครับ และยังมีความสำคัญในเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งหากน้ำมันเครื่องหนืดไปหรือหนืดน้อยไป น้ำมันเครื่องจะไม่สามารถไหลเวียน และให้การหล่อลื่นเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การตรวจสอบน้ำมันเครื่อง นั้นควรที่จะตรวจสอบตั้งแต่ การกำหนดถ่ายน้ำมันเครื่อง หากว่าครบกำหนด หรือว่าหาเลยกำหนดมาแล้วก็ควรที่จะรีบเปลี่ยนทันที

     วิธีการตรวจสอบระดับของน้ำมันเครื่อง ก็จะมีวิธีการดูง่าย ๆ หากว่ามีน้ำมันเครื่องที่อยู่ในระดับที่ต่ำเกินไป จะมีไฟเตือนระดับน้ำมันเครื่องอยู่ที่หน้าปัดรถยนต์ หรือ หากไม่แน่ใจ ก็สามารถตรวจสอบได้โดยเปิดฝากระโปรงรถและดึงแท่งวัดระดับน้ำมันเครื่องออกมาดูเพื่อตรวจสอบ จากนั้นใช้กระดาษทิชชู่เช็ดแท่งวัดระดับน้ำมันเครื่อง แล้วเสียบกลับลงไป เมื่อดึงออกมาจะเห็นระดับน้ำมันชัดเจนขึ้น และระดับน้ำมันก็ไม่ควรที่จะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า L และไม่สูงกว่า F ค่ะ

สาม ตรวจสภาพรถยนต์

3. ตรวจสอบปริมาณน้ำในหม้อน้ำรถยนต์

            น้ำหล่อเย็นจะเป็นตัวสำคัญที่นำพาความร้อนจากเครื่องยนต์ ส่งไปที่หม้อน้ำบริเวณหน้ารถยนต์ เพื่อให้ลมช่วยระบายความร้อนทำให้น้ำเย็นตัวลง ก่อนถูกนำกลับไปหมุนวนที่เครื่องยนต์ ถ้าไม่หมั่นตรวจเช็คน้ำในหม้อน้ำ ถ้าน้ำในหม้อน้ำเกิดแห้งเครื่องร้อน ซึ่งทำให้เครื่องยนต์เกิดอาการ โอเวอร์ฮีท และทำให้หม้อน้ำเกิดความเสียหายได้ค่ะ

     วิธีการตรวจสอบสามารถเปิดกระโปรงรถ และเปิดฟาดูปริมาณขอน้ำในหม้อน้ำได้ (เปิดขณะที่เครื่องรถยนต์เย็นเท่านั้น) ซึ่งความจริงแล้วน้ำก็ควรจะต้องเติมให้เต็ม และสามารถซื้อน้ำหล่อเย็นสำหรับหม้อน้ำได้ที่ศูนย์บริการรถยนต์ และร้านขายอะไหล่ทั่วไปค่ะ

สี่

4. ตรวจสอบความลึกของดอกยาง

            ดอกยางรถยนต์ถือว่า มีความสำคัญไม่น้อยกว่าเครื่องยนต์เลยค่ะ ซึ่งความสำคัญของดอกยางรถยนต์นั้นมีความสำคัญในการเกาะถนน และรีดน้ำขณะขับรถเมื่อถนนเปียก และทำหน้าที่กระจายน้ำหนักให้รถยนต์ ให้สามารถควบคุมได้และไม่เสียการทรงตัวค่ะ

     สำหรับการตรวจสอบดอกยางรถยนต์ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ก็คือ การนำไม้บรรทัดมาแล้วเทียบกับสะพานยางนั่นเอง หากความลึกของดอกยางน้อยกว่า 1. 6 มิลลิเมตร ก็ควรที่จะเปลี่ยนยาง หรือ หากว่ามีความลึกที่มากกว่า 1.6มิลลิเมตร ก็สามารถขับขี่ต่อไปได้ค่ะ และควรที่จะตรวจสถาพดอกยางอยู่บ่อย ๆ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่นั่นเอง

ห้า ตรวจสภาพรถยนต์

5. ตรวจสอบแบตเตอรี่รถยนต์

            เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็ยังไม่เคยเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์เลย หลังจากที่ซื้อมา ซึ่งแบตเตอรี่นั้นหากใช้งานไปนาน ๆ ก็อาจจะมีการเสื่อมสภาพตามอายุที่ผู้ผลิตกำหนดมาได้ ซึ่งอาการเสื่อมของแบตเตอรี่ก็จะมีอาการดังนี้

  1. สตาร์ทติดยาก
  2. ไฟหน้ารถเริ่มสว่างน้อยลง
  3. กระจกไฟฟ้าทำงานหนืด ๆ เวลาเปิดปิด

     หรือหากว่า ไม่มั่นใจ เพราะว่าซื้อรถมาเป็นเวลานานก็สามารถนำไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ค่ะ ซึ่งปัจจุบันแบตเตอรี่ก็มีราคาที่ไม่แพงแถมยังมีคุณภาพที่ดีอีกด้วย บอกเลยว่า แกร่ง ไฟแรงสูงเลยค่ะ

     เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ 5 ขั้นตอน ตรวจสภาพรถยนต์ ง่าย ๆ  ด้วยตนเอง บอกได้เลยครับว่า ถึงจุไม่มีความรู้เกี่ยวกับรถยนต์เลย ก็สามารถตรวจสภาพรถยนต์ให้พร้อมก่อนออกเดินทางได้ด้วยตนเองง่าย ๆ เลยครับ หากคุณได้ทำตามที่เราได้แนะนำไปแล้ว คุณก็สบายหายห่วง ที่เหลือ ก็จะขึ้นอยู่กับผู้ขับขี่เองแล้วหละค่ะ

ขอแนะนำ Slotxoเครดิตฟรี เล่นสล็อตออนไลน์ฟรีเครดิต เพียงแค่สมัครสมาชิก ถือได้ว่า เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี สำหรับคนที่ชื่นชอบ การเล่นเกมสล็อตออนไลน์กับ superslot การเล่นสล็อตฟรีเครดิต สามารถนำเงินเข้าไปต่อยอดในการเล่น ให้มีโอกาสพิชิตเงินแจ็คพอตได้อีกด้วย